ผู้เขียน หัวข้อ: พระครูศิริปัญญามุนี (อ่อน เทวนิโภ) วัดเทพนิมิตร  (อ่าน 9037 ครั้ง)

piya

  • Global Moderator
  • Jr. Member
  • *****
  • กระทู้: 65
พระครูศิริปัญญามุนี (อ่อน เทวนิโภ)



พระครูศิริปัญญามุนี (หลวงปู่อ่อน เทวนิโภ)

เกิดเมื่อ วันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน3 ปีชวด จุลศักราช 1202 ตรงกับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พศ.2383
เป็นบุตร นายช่วง นางป้อม อยู่ตำบลบางชัง อำเภอบางคนที จ.สมุทรสงคราม  หลวงปู่อ่อน มีพี่น้อง 2คน โดยหลวงปู่เป็นคนโต และมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ เนย

เมื่อเยาว์วัย บิดาได้นำมาฝากเรียนหนังสืออยู่กับสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธศิริ) วัดโสมนัสวิหาร กทม.ต่อมาบิดาได้นำมาถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่5 ตั้งแต่ยังไม่ได้เสวยราชย์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เป็น มหาดเล็กเวรพระพี่เลี้ยง จนมีอายุ 17-18 ปี จึงเข้ารับราชการเป็นที่เวรพระตำรวจขวา ในพระบรมมหาราชวัง ครั้นอายุ ครบ 20 ปี บริบูรณ์ จึงกราบบังคมทูลลาออกมาอุปสมบท ณ วัดบูรณะศิริมาตยาราม กทม. มีพระสุเมธาจารย์ (สี) วัดชนะสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยรัท (เทศ) วัดบูรณะศิริมาตยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระจันทร์โคจรคุณ (ยิ้ม) วัดมงกุฏกษัตริยาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาอยู่วัดบูรณะศิริมาตยาราม อยู่ 3พรรษา ได้มีคณะอุบาสก อุบาสิกา จากอำเภอพระประแดง มีเจ้ากรมเที่ยง เป็นหัวหน้า ได้มาขอพระผู้ทรงคุณสมบัติ ไปครองวัดหน้าพระธาตุ อ.พระประแดง สมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธศิริ) วัดโสมนัส ซึ่งครองตำแหน่งพระพรหมมุนี ท่านทรงเรียกประชุมคณะสงฆ์และคัดเลือก พระอ่อน เทวนิโภ และพระอ้น ธัมมปาโล พร้อมพระสงฆ์จากวัดโสมนัส จำนวน 7 รูปไปครองวัดหน้าพระธาตุ หลวงปู่พร้อมคณะสงฆ์ได้ทำการบูรณะปฎิสงขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรม ให้กลับมาดีขึ้น รวมทั้งได้สร้างกุฏิสงฆ์จนเพียงพอต่อจำนวนคณะสงฆ์ เมื่อครองวัดเป็นเวลา 1 ปี ท่านจึงกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสัมพันธ์วงษ์  หลวงปู่ได้พากเพียรศึกษาพระปริยัติอยู่ได้ 5 ปี ก็ธุดงค์ออกจากวัดสัมพันธ์วงษ์ โดยธุดงค์มาที่เขตจังหวัดฉะเชิงเทรา และได้บำเพ็ญสมณธรรม จนชาวบ้านเกิดศรัทธาเลื่อมใสหลวงปู่มาก ถึงกับช่วยกันรวบรวมเงินซื้อที่ดิน และยกบ้านเรือน ถวายหลวงพ่อเพื่อสร้างวัดและกุฏิ โดยมีอุบาสิกาอิ่ม เป็นหัวหน้าคณะศรัทธาครั้งนี้ การก่อสร้างวัดได้ทำเรื่อยมาจนเสร็จเรียบร้อยในปี พศ.2421-2422 แล้วขนานนามวัดขึ้นว่า "วัดเทพนิมิตร"

หลวงปู่อ่อน ได้สร้างความดีและมีผลงานมากมาย จนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ทรงโปรดให้สถาปณาสมณศักดิ์เป็นที่ "พระครูศิริปัญญามุนี" ตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ มณฑลปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2430 โดยได้รับพระราชทานสัญญาบัตรและพัดพุดตานพื้นกำมะหยี่ปักชั้นโท มีฐาณานุกรมได้ 2รูปคือ พระสมุห์ 1 และ พระใบฎีกา 1 มีนิตรภัตรเดือนละ 8 บาท

คร้นต่อมาเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2438 ได้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าคณะเมืองสมุทรสาคร มณฑลราชบุรี โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีสุริยวงศ์ ระหว่างนั้นท่านได้ประกอบกิจอันเป็นคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย อาทิ สร้างวัดเกาะลอย,วัดถ้ำเขางู รวมทั้งปฏิสังขรพระอุโบสถวัดโคกหม้อและวัดมหาธาตุ ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมให้กลับมามีสภาพดีขึ้น

เมื่อถึงวันที่ 23 พฤษภาคม พศ.2457 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ย้ายกลับมาเป็นเจ้าคณะธรรมยุตินิกาย 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา,นครนายกและปราจีนบุรี ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรและพัดยอดพื้นเยียรบัตรเย็บ มีฐาณานุกรมได้ 5รูป คือ พระปลัด 1 พระวินัยธร 1 พระวินัยธรรม 1 พระสมุห์ 1 และ พระใบฎีกา 1 มีนิตรภัตรเดือนละ 10 บาท พระราชทินนามเดิมและประจำอยู่ที่วัดเทพนิมิตร

เมื่อถึงต้นปี 2458 หลวงปู่ซึ่งตรากตรำทำงานอย่างหนักได้อาพาธเป็นไข้ปัสสาวะพิการและป่วยด้วยโรคนิ่ว มีอาการป่วยกระเสาะกระแสะเรื่อยมา จนถึงแก่มรณะภาพลงเมื่อ วันที่ 20 กันยายน 2458 เวลา 20.38 น. ที่กุฏิหลังใหญ่วัดเทพนิมิตร สิริอายุได้ 75ปี 54 พรรษา




ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากนิตยสารพระเครื่องกรุงสยาม ฉบัยที่ 7 โดย อ.คีโถ ถั่วทอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 13, 2011, 10:47:39 AM โดย piya »

piya

  • Global Moderator
  • Jr. Member
  • *****
  • กระทู้: 65
Re: พระครูศิริปัญญามุนี (อ่อน เทวนิโภ) วัดเทพนิมิตร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 10:40:01 AM »